Bikini กำจัดขน

Bikini Wax

1. บิกินี่ (Bikini) คืออะไร?

บิกินี่ (Bikini) เป็นการทำเลเซอร์เพื่อกำจัดขนส่วนเกินที่ไม่ต้องการออกไปอย่างถาวร ต่างจากการใช้ยาทาเพื่อกำจัดขน การถอน การแวกซ์ หรือการโกน ที่นอกจากจะก่อให้เกิดการระคายเคือง และผิวหนังบอบช้ำแล้ว ยังทำให้ เกิดแผล รูขุมขนบิดเบี้ยว แคบ ขนใหม่ยาวขึ้นมาไม่ได้ จนเกิดจนขนคุด เกิดตุ่มนูนได้อีกด้วย  

การทำ บิกินี่ (Bikini) สามารถใช้เลเซอร์ได้หลายประเภทแต่ที่นิยมและได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพคือ Gentle Yag Laser ที่มีหัวเลเซอร์ใหญ่ ยิงลำแสงได้หลายเส้น โดยเลเซอร์จะส่งคลื่นแสงความเข้มข้นสูงเข้าไปยังชั้นผิวหนังแท้ เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน และไปทำลายเม็ดสีที่อยู่ในรากขน ทำให้เราสามารถกำจัดขนส่วนเกินที่ไม่พึงประสงค์ออกไปได้ 

นอกจากนี้ ยังสามารถกำจัดขนด้วยการใช้คลื่นวิทยุ RF ข้อดีทำได้เนียน แต่อาจเจ็บกว่าการทำเลเซอร์ อย่างไรก็ตาม หากจะทำ  บิกินี่ (Bikini) ให้เห็นผลได้ชัดที่สุดควรทำตั้งแต่ 3-7 ครั้ง เพื่อให้ผิวเรียบเนียน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสีผิว ความหนา และ ความแข็งแรงของรากขน

2. บิกินี่ (Bikini) ใช้บริเวณไหน?

เลเซอร์ บิกินี่ (Bikini) สามารถทำได้ทั่วร่างกาย ในบริเวณที่ต้องการจะแก้ปัญหา ทั้งนี้ เลเซอร์ บิกินี่ (Bikini) ของที่ Fiora Clinic จะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ 1. บิกินี่ (Bikini) คือกำจัดเฉพาะส่วนเกินที่ออกมาจากขอบบิกินี่ และ 2. Whole Bikini คือกำจัดขนทั้งหมดรวมถึงขนด้านในด้วย ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกทำได้ตามปัญหาและความต้องการ

3. บิกินี่ (Bikini) เหมาะกับใคร?

บิกินี่ (Bikini) เหมาะกับผู้ที่ต้องการกำจัดขนที่ไม่ต้องการทั่วเรือนร่าง หรือ กำจัดขนที่เกินออกมาจากขอบบิกินี่

4. ทำไมต้องทำ บิกินี่ (Bikini) ที่ Fiora Clinic?

การทำ บิกินี่ (Bikini) จำเป็นต้องอาศัยความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ และควรอยู่ในความดูแลของแพทย์  ที่ Fiora Clinic เรามีคุณหมอผู้เชี่ยวชาญในการทำ บิกินี่ (Bikini) ซึ่งคุณหมอมีประสบการณ์มากกว่า 5,000 เคส เป็นเจ้าของวุฒิบัตรเฉพาะทางการฉีดโบท็อกซ์และฟิลเลอร์ จากสหรัฐอเมริกา และได้รับ Certificate หลายใบจากผู้ผลิต เมโส, ฟิลเลอร์ และโบท็อกซ์  ลูกค้าทุกท่านสามารถมั่นใจได้ว่ามาที่ Fiora Clinic ปลอดภัยและได้คุณภาพอย่างแน่นอน 

5. การดูแลหลังรับบริการ บิกินี่ (Bikini)

หลังการบิกินี่ (Bikini) ผู้ที่รับบริการอาจมีรอยแดงปรากฏบริเวณที่ทำเลเซอร์ แต่จะหายไปเองภายใน 1-2 วัน อย่างไรก็ตาม ควรทำตามข้อปฏิบัติในการดูแลตนเองดังต่อไปนี้

  1. เลี่ยงการโดนแดดจัดๆ ประมาณ 1-3 สัปดาห์ 
  2. ควรทาครีมกันแดดทุกครั้งที่ออกข้างนอก ซึ่งครีมกันแดดที่แนะนำควรมีค่า SPF 30 ขึ้นไป
  3. เลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของ BHA, AHA หรือ Vitamin หลังทำเป็นระยะเวลา 1 วัน
  4. สามารถประคบเย็นบริเวณที่ทำเลเซอร์ได้เพื่อให้รู้สึกสบายผิวขึ้นได้