sculptra

สกัลป์ทรา (Sculptra) คืออะไร?

ช่วยเรื่องอะไรบ้าง? เหมาะกับใคร?

เมื่อคนเราอายุมากขึ้น สิ่งที่สังเกตุได้ชัด คือ ผิวไม่เต่งตึง มีริ้วรอยเล็ก ๆ ถ้าหากเราไม่ได้ดูแลผิวในส่วนนั้นเป็นเวลานานจากริ้วรอยที่เล็ก ก็จะกลายเป็นริ้วรอยที่ลึก จากผิวที่ไม่เต่งตึง ก็จะเกิดความหย่อนคล้อย ไม่กระชับซึ่งเกิดได้โดยปกติ เนื่องจากเมื่อเราอายุมากขึ้นร่างกายเราจะผลิตคอลลาเจน (Collagen) น้อยลงไปเรื่อย ๆ ซึ่งตอนนี้ Fiora Clinic มีนวัตกรรมใหม่ที่จะช่วยทุกคนจากปัญหาเหล่านี้ได้

Sculptra หรือ สกัลป์ทรา เป็นทคโนโลยีการฟื้นฟูผิวรูปแบบใหม่ ที่ประกอบด้วยไหมน้ำชนิด PLLA (Poly-L-Lactic acid) ซึ่งเป็นหนึ่งใน สารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ที่เรียกว่า Biostimulator และเป็น Collagen Stimulator ตัวแรกของโลก และตัวเดียวที่ผ่านการรับรองจาก US.FDA และ อย.ไทย ซึ่งมั่นใจได้เลยว่าปลอดภัยแน่นอน

Sculptra คืออะไร

Sculptra (สกัลป์ทรา) คืออนุภาคของสาร PLLA หรือชื่อเต็มว่า Poly-L-Lactic acid ซึ่งถือเป็นสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน (Collagen Stimulator) ตามธรรมชาติตัวแรกของโลก (The First & Original Collagen Biostimulator) เป็นสารสังเคราะห์จากพืชที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย และสามารถย่อยสบายไปเองตามธรรมชาติและไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ในร่างกาย

ซึ่ง Sculptra มีคุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ซึ่งจะมาทดแทนคอลลาเจนที่สูญเสียไปเมื่อตอนที่เราอายุมากขึ้น ฟื้นฟูผิวจากโครงสร้างผิวชั้นลึก ทำให้ผิวแข็งแรงจากภายใน ช่วยให้ผิวกระชับ เติมเต็ม อิ่มฟู คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวอย่างเป็นธรรมชาติ

Sculptra ช่วยในการกระตุ้น collagen type 1 เป็นหลัก โดยจากผลการวิจัยพบว่า Sculptra จะสามารถกระตุ้นให้เกิดการผลิต Collagen type1 สูงถึง 66.5% หลังจากฉีดไปแล้ว 3 เดือน ซึ่งถ้าเทียบกับผลิตภัณฑ์ตัวอื่นๆ

Biostimulator หรือ สารกระตุ้นคอลลาเจน

Biostimulator เป็นการรักษาประเภทนึงในศาสตร์การแพทย์ชะลอวัย และความงาม โดยใช้หลักการกระตุ้น Natural Healing และ Regenerative process หรือการใช้สารบางอย่างในการกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการซ่อมแซม ฟื้นฟูด้วยตนเอง อย่างเช่น การรักษาด้วย PRP , การฉีด Growth factor หรือ แม้กระทั้งการฉีด Rejuran แตกต่างกันที่ผลลัพธ์ แต่ทั้งหมดนี้ก็นับว่าเป็น biostimulator แบบหนึ่ง

คอลลาเจน Collagen สำคัญอย่างไร

Collagen คือโปรตีนชนิดหนึ่งซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของผิวหนัง โดยมีสัดส่วนสูงถึง 75 % ทำหน้าที่ในการเป็นโครงสร้างของเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นผิวหนัง กระดูก กล้ามเนื้อ เล็บ เอ็น และข้อ

สำหรับในผิวหนัง คอลลาเจนมีหน้าที่สำคัญเป็นอย่างมาก ในการเป็นโครงร่างผิว ทำให้ผิวมีความกระชับ ยืดหยุ่น ส่งผลให้เราแลดูอ่อนเยาว์ แต่เมื่อเราอายุมากขึ้น คอลลาเจนจะผลิตลดลงไปเรื่อย ๆ ทำให้เกิดผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ เกิดริ้วรอย และการสูญเสีย volume ของใบหน้าไป

Collagen มีกี่ Type

ปัจจุบันค้นพบว่าร่างกายคนเรามีคอลลาเจนมากกว่า 16 ชนิด แตกต่างไปตามตำแหน่งของร่างกาย โดยชนิดที่เราจะสามารถพบได้บ่อยคือ type 1 , 2 และ 3

ผิวหนังมีคอลลาเจนชนิดที่ 1 เป็นโครงสร้างหลัก จึงมีแรงสปริงและยืดหยุ่นดีตามไปด้วย แต่หลังจากอายุ 25 ปี โดยเฉลี่ยร่างกายของเราจะผลิตคอลลาเจนได้น้อยลงปีละ 1 % ในขณะที่อัตราการสลายคอลลาเจนยังเท่าเดิม ทำให้ปริมาณคอลลาเจนในร่างกายลดลงเรื่อย ๆ ส่งผลให้ความแข็งแรงของผิวลดลงเมื่ออายุมากขึ้น เกิดความหย่อนคล้อย และริ้วรอยตามมา

เมื่อเราอายุขึ้นเลข 4 คอลลาเจนจะหายไปถึง 1 ใน 5 ของร่างกาย และเมื่ออายุขึ้นเลข 5 คอลลาเจนจะหายไปถึง 1 ใน 3 จึงเลี่ยงไม่ได้ที่ผิวจะการเหี่ยว หย่อนคล้อย และทำให้แลดูชรา ซึ่ง Sculptra คือกุญแจสู่ผิวอ่อนเยาว์ ที่จะมาจัดการปัญหาเหล่านี้

Sculptra ช่วยอะไรบ้าง และดีอย่างไร

  1. กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวอย่างต่อเนื่อง และเป็นธรรมชาติ โดยเติมเต็มคอลลาเจนใต้ชั้นผิวให้เรียงตัวแน่นขึ้นอย่างเป็นระเบียบ
  2. ฟื้นฟูโครงสร้างชั้นลึกใต้ผิว ผิวแข็งแรง แน่นกระชับ อิ่มฟู
  3. ใบหน้ายกกระชับขึ้น ใบหน้าโดยรวมดูเด็กลง
  4. คืนความสมดุลให้ผิวอิ่มน้ำ แก้ปัญหาผิวหยาบกร้าน
    เติมเต็ม พร้อมยกกระชับใบหน้า
  5. ลดริ้วรอยบนใบหน้า ผิวเรียบเนียนยิ่งขึ้น
  6. เพิ่มความกระจ่างใสให้ผิว

การฉีด Sculptra เหมาะกับใคร

  1. ผู้ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป
  2. ผู้ที่มีผิวหนังหย่อนคล้อย ไม่กระชับ
  3. ผู้ที่ผิวหนังขาดความยืดหยุ่น
  4. ผู้ที่อยากมีผิวหน้าอ่อนกว่าวัย
  5. ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนานมากกว่าผลิตภัณฑ์ตัวอื่น ๆ
เมื่ออายุ 25 ปีขึ้นไป การสร้างคอลลาเจนในร่างกายจะเริ่มลดลง จนถึงอายุ 45 ปี จะสังเกตได้ว่าผิวมีความหย่อนคล้อย ไม่กระชับพราะคอลลาเจนซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการพยุงโครงสร้างผิวลดลง ทำให้ผิวหย่อนคล้อย เสียรูปทรง

 

เมื่อฉีด sculptra เข้าไปกระตุ้นให้เกิดการผลิตคอลลาเจนตามธรรมชาติ รวมถึงฟื้นฟูโครงสร้างภายในชั้นลึกของผิว ทำให้ผิวมีความแข็งแรง ดูยกกระชับขึ้น ผิวแน่นดูอิ่มฟู ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว พร้อมปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดียิ่งขึ้น ถือว่า sculptra ตอบโจทย์คนไข้ในกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดีครับ

 

sculptra ฉีดจุดไหนได้บ้าง

สามารถฉีดได้หลายตำแหน่งเช่น ขมับ หน้าแก้ม (Midface) กรอบหน้าหรือตำแหน่งอื่น ๆ ตามต้องการ (ควรอยู่ในคำแนะนำของแพทย์ที่มีประสบการณ์)

 

การเตรียมตัวก่อนฉีด sculptra

  1. งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1-3 วัน ก่อนการฉีด
  2. ไม่อยู่ในภาวะการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
  3. หากมีโรคประจำตัวหรือรับประทานยาใด ๆ อยู่ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีด Sculptra
  4. งดยาหรือวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น กลุ่มยาแอสไพริน วิตามินอี น้ำมันปลา ฯลฯ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการฉีด เพื่อป้องกันอาการฟกช้ำที่อาจเกิดขึ้นได้

ขั้นตอนการฉีด Sculptra

  1. แพทย์ตรวจสอบปัญหาผิวและประเมินปริมาณการใช้ Sculptra
  2. ก่อนทำจะทำการแปะยาชา ประมาณ 30 – 45 นาที เพื่อลดความแสบขณะฉีด เนื่องจากตัวยามีลักษณะที่หนืดและเข้มข้นมาก
  3. คุณหมอแกะกล่อง Sculptra ต่อหน้าของคนไข้ เพื่อตรวจสอบว่าเป็นผลิตภัณฑ์ของแท้
  4. หมอฉีด sculptra ลงผิวชั้นลึก เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที
  5. หลังทำอาจมีรอยเข็ม หรืออาการบวมเกิดขึ้น เนื่องจากรอตัวยากระจายออกไปบริเวณต่าง ๆ ซึ่งเป็นอาการปกติที่พบได้
  6. คุณหมอและเจ้าหน้าที่คลินิกจะแนะนำวิธีการดูแลตัวเองและการนวดที่ต้องกลับไปทำที่บ้าน กลับบ้าน และใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้น

การดูแลหลังฉีด Sculptra

  1. งดแต่งหน้า 2 – 3 ชั่วโมง
  2. งดดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมง
  3. งดซาวน่าหรือสตรีม 1 – 2 สัปดาห์
  4. งดทำเลเซอร์ที่มีความร้อนสูง 1 เดือน
  5. งดการฉีดสารอื่น ๆ เข้าบริเวรที่ฉีด 2 – 3 วัน
  6. งดออกกำลังกายหนัก ๆ และเลี่ยงแดดจัด 2 – 4 สัปดาห์หลังทำอาจมีอาการช้ำหรือบวมจากตัวยาซึ่งจะหายไปเองใน 2 – 3 วัน ทั้งนี้สามารถประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม

การนวดหน้าหลังทำ Sculptra 5 วัน

เพื่อให้ตัวยาดูดซึมกระจายเข้าสู่ผิวให้ได้มากที่สุด หลังฉีดคนไข้ควรนวดตามคำแนะนำให้นวดหลังฉีดทันที โดยนวดลงน้ำหนักมือเป็น vector ตามแนวกล้ามเนื้อ และบริเวณที่ฉีด โดยสเต็ปการนวดมี 4 ท่า และควรทำต่อเนื่อง 5 นาที จำนวน 5 ครั้ง/วัน ควรทำทั้งหมด 5 วัน ให้ตัวยากระจายได้ทั่วบริเวร

  1. ขั้นที่ 1 ใช้นิ้วโป้งของเรานวดขมับทั้ง 2 ข้างแล้วใช้กำปั้นค่อย ๆ นวดเลื่อนจากหน้าผากไปขมับ
  2. ขั้นที่ 2 ยกนิ้วโป้งขึ้น แนบไปตรงหน้าแก้ม ทั้งสองข้าง แล้วเลื่อนจากหน้าแก้มไปข้าง ๆ แก้ม
  3. ขั้นที่ 3 ใช้อุ้งมือกดช่วงข้าง ๆ แก้ม แล้วค่อย ๆ นวดไล่จากล่างขึ้นบนไปถึงตรงโหนกแก้ม
  4. ขั้นที่ 4 ท่าสุดท้าย ทำมือคล้าย ๆ กับท่าที่สอง ยกนิ้วโป้งขึ้น เริ่มจากที่คางไล่ไปตามแนว

ฉีด Sculptra เห็นผลเมื่อไหร่ อยู่ได้นานแค่ไหน

การฉีด Sculptra จะไม่ได้เห็นผลทันที ต่างจากการฉีดฟิลเลอร์ โดย Sculptra จะค่อย ๆ เห็นผลทีละนิด โดยจะใช้เวลาอย่างน้อย 3-4 สัปดาห์ ก่อนจะเริ่มเห็นผลลัพท์อย่างชัดเจน โดยหลังการฉีด 2-3 วันแรก อาจจะดูเหมือนบริเวณที่ฉีดมีการฟูขึ้น เต็มขึ้น แต่ส่วนมากจะเกิดจากอาการบวม และจากตัวยามากกว่า ซึ่งผลเหล่านี้จะหายไป ก่อนที่จะได้ผลจริง ๆ จากคอลลาเจนที่สร้างมากขึ้น โดยส่วนมากในเข็มแรก ผลลัพธ์จะไม่ได้ถึง 100% ขึ้นกับแต่ละท่านว่ามีปัญหามากน้อยเท่าไหร่ ซึ่งที่อิสสวีร์คลินิก หมอจะนัดดูผลในช่วง 3-4 สัปดาห์ เพื่อประเมินว่าควรฉีดเพิ่มหรือไม่ครับ

สำหรับผลลัพธ์หลังการรักษาจะอยู่ได้นานถึง 24 เดือน หรือ 2 ปี เพราะเป็นการคงอยู่ของคอลลาเจนที่สร้างขึ้นด้วยตนเองตามธรรมชาติ โดยในบางรายอาจอยู่ได้ถึง 3 ปี ขึ้นกับการดูแลแต่ละบุคคล

การฉีด sculptra ไม่เหมาะกับใครบ้าง?

  1. ผู้มีประวัติแพ้ยาชา
  2. ผู้ที่มีประวัติแพ้ PLLA (Poly-L-Lactic acid)
  3. ผู้ที่มีประวัติแพ้ที่รุนแรง (anaphylactic shock)
  4. ผู้ที่มีการอักเสบติดเชื้อของผิวหนังบริเวณที่ฉีด เช่น สิว เริม ก้อนซีสต์ หรือผดผื่นอักเสบ
  5. ผู้ที่รับประทานยากดภูมิ หรือสเตียรอยด์อยู่
  6. ผู้ที่มีประวัติโรคแพ้ภูมิตัวเอง (Systemic Lupus Erythematosus : SLE)
  7. ไม่แนะนำในสตรีมีครรภ์ และให้นมบุตร

บทสรุป

Sculptra (สกัลป์ทรา) เป็นสาร PLLA (Poly-L-Lactic acid) เป็นหนึ่งใน สารกระตุ้นคอลลาเจน ที่เรียกว่า Biostimulator ที่ใช้กระตุ้นคอลลาเจน ให้กลับมาเปล่งปลั่งสดใส โดยช่วยบำรุงจากโครงสร้างภายในช่วยเติมเต็ม ยกกระชับใบหน้า ฟื้นฟูผิวได้ยาวนานถึง 2 ปี ทำให้เห็นผลลัพธ์ที่ยาวนาน และ Sculptra ได้ผ่านการรับรองจาก US.FDA และ อย.ไทย ซึ่งมั่นใจได้เลยว่าปลอดภัย ทั้งนี้ควรฉีดตามคำแนะนำของแพทย์และฉีดโดยคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ตัวยาของแท้เท่านั้น

ทำไมต้องฉีด Sculptra ที่ Fiora Clinic

ที่ Fiora Clinic ของเรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการฉีด Sculptra และเป็นแพทย์ผู้สอนแพทย์ทั่วประเทศฉีด Sculptra อย่างคุณหมอเพชร – นายแพทย์ชัยรัตน์ เสริมศิลป์ อีกทั้งยังการันตีด้วยประสบการณ์มากกว่า 20,000 เคส เจ้าของวุฒิบัตรเฉพาะทางการฉีดโบท็อกจากประเทศสหรัฐอเมริกา และ ได้รับ Certificate หลายใบจากผู้ผลิต เมโส ฟิลเลอร์ และ โบท็อกทำให้ลูกค้าทุกท่านมั่นใจได้ว่ามาที่ Fiora Clinic ปลอดภัยและได้คุณภาพอย่างแน่นอน

  • ทีมแพทย์มีประสบการณ์การมากกว่า 20,000 เคส
  • ใช้เทคนิคเฉพาะที่ทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด
  • มีรีวิวจากผู้เข้าใช้บริการ ซึ่งตอกย้ำถึงความน่าเชื่อถืออละสร้างความมั่นใจ
  • ดูแลทุกเคสโดยแพทย์ชำนาญการด้านความงาม และมีการติดตามผลหลังทำตลอด
  • ปรึกษาฟรี เพียงส่งรูปให้แพทย์ประเมินปัญหาในเบื้องต้น ก่อนนัดหมาย Walk-in เข้ามาคลินิก เพื่อเป็นการประหยัดเวลาของผู้เข้ารับบริการ
  • คลินิกเปิดให้บริการถูกต้องตามกฎหมาย ได้มาตรฐาน มีป้ายชื่อสถานพยาบาล และเลขที่ใบอนุญาต จำนวน 11 หลัก ติดไว้หน้าคลินิก มีใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล และใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานการพยาบาล ติดไว้ในที่เปิดเผยและเห็นได้ง่ายในคลินิก

เพื่อความสบายใจ และความปลอดภัย ควรศึกษาข้อมูลการทำ Sculptra อย่างละเอียด แนะนำอย่ารีบด่วนตัดสินใจ ให้เข้ามาปรึกษาแพทย์ และสอบถามข้อสงสัยจากแพทย์โดยตรง เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจอีกครั้ง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า