Laser ลบรอยสัก

ลบลอยสักด้วยเลเซอร์ คืออะไร?

ลบรอยสัก เป็นการใช้เลเซอร์ลบรอยสัก ซึ่งทาง Fiora Clinic จะใช้เป็น เลเซอร์ Q-Switch (คิวสวิท) ที่ทำปฏิกิริยากับเม็ดสีโดยเฉพาะ ด้วยการส่งคลื่นแสงที่มีความหนาแน่นและความเข้มข้นสูง เพื่อทำให้เม็ดสีของรอยสักที่อยู่ภายใต้ชั้นผิวหนังกระจายตัวออก จากนั้นเม็ดเลือดขาว จะเข้าไปทำลายเซลล์เม็ดสีที่แตกตัวนั้นออกไป โดยไม่ทิ้งแผลเป็นให้กับผิวหนังชั้นบน

ลบลอยสักด้วยเลเซอร์ บริเวณไหน?

ท่านสามารถลบรอยสักได้ตามบริเวณที่ต้องการด้วย เลเซอร์ Q-Switch อย่างไรก็ตาม การลบรอยสักแต่ละรอยอาจได้ผลลัพธ์ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับขนาดของรอยสัก ตำแหน่ง ชนิดของสีที่ทำการสัก ความลึก อายุของรอยสัก แล้วก็สีผิวของผู้รับบริการ โดยการลบรอยสักมที่อยู่บริเวณแขน ขา และก้น จะลบได้ง่ายกว่าส่วนอื่น นอกจากนี้ การลบสีดำ สีน้ำเงิน และเขียว ก็จะได้ผลดีกว่าสีอื่นด้วย แต่ถ้าหากเป็นสีเหลือง สีส้ม สีแดง หรือขาว ก็อาจต้องลบซ้ำหลายครั้ง หรือใช้เลเซอร์หลายประเภทประกอบกัน  ซึ่งหากอยากเห็นผลชัดเจนควรทำการลบรอยสักด้วยเลเซอร์อย่างน้อย 2-3 ครั้ง ซึ่งสามารถทำได้ทุกๆ 2-4 สัปดาห์

 

ลบลอยสักด้วยเลเซอร์ เหมาะกับใคร?

เหมาะกับผู้ที่ต้องการลบรอยสักอย่างถาวร การลบรอยสักด้วยเลเซอร์จะค่อยไม่มีผลข้างเคียงอะไรมากนัก บางกรณีอาจมีรอยแดง รอยดำเกิดขึ้น รวมถึงผิวจะตกสะเก็ดในเวลาต่อมา แต่สะเก็ดจะหลุดไปภายใน 5-7 วัน ทั้งนี้ การใช้เลเซอร์ยังใช้เวลาไม่นาน และปลอดภัย ไม่เจ็บ 

 

ทำไมต้องลบลอยสักด้วยเลเซอร์ ที่ Fiora Clinic?

การลบรอยสัก จำเป็นต้องอาศัยความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ และควรอยู่ในความดูแลของแพทย์  ที่ Fiora Clinic เรามีคุณหมอผู้เชี่ยวชาญในการลบรอยสัก โดยคุณหมอมีประสบการณ์ด้านความงามมามากกว่า 5,000 เคส เป็น เจ้าของวุฒิบัตรเฉพาะทางการฉีดโบท็อกซ์และฟิลเลอร์ จากสหรัฐอเมริกา และได้รับ Certificate หลายใบจากผู้ผลิต เมโส, ฟิลเลอร์ และโบท็อกซ์  ลูกค้าทุกท่านสามารถมั่นใจได้ว่ามาที่ Fiora Clinic ปลอดภัยและได้คุณภาพอย่างแน่นอน 

 

การดูแลหลังรับบริการลบลอยสักด้วยเลเซอร์

หลังการลบรอยสัก ผู้ที่รับบริการควรทำตามข้อปฏิบัติในการดูแลตนเองดังต่อไปนี้

  1. หลีกเลี่ยงการออกแดด และโดดแดดจัด ประมาณ 1-2 สัปดาห์ 
  2. ควรทาครีมกันแดดทุกครั้งที่ออกไปข้างนอก โดยควรใช้ครีมกันแดด SPF 30 PA+ ที่สามารถปกป้องแสดงและมลภาวะต่างๆ ได้ 
    เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่จะตามมา เช่น รอยดำ
  3. เลี่ยงการให้แผลโดนน้ำ 
  4. ไม่ควรใช้มือแกะสะเก็ด ควรปล่อยให้หลุดไปเองตามปกติ
  5. หากเกิดอาการอักเสบ และบวมแดงควรรีบพบแพทย์ทันที

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า