การฉีดโบลดริ้วรอย เป็นหนึ่งในเทคนิคการลดริ้วรอยที่เห็นผลได้รวดเร็ว สามารถลดริ้วรอยได้หลายจุดบนใบหน้า เช่น ริ้วรอยตีนกา รอยย่นที่หน้าผาก รอยปูดระหว่างคิ้ว ร่องแก้ม เป็นต้น แต่เป็นที่รู้กันดีว่า การฉีดโบลดริ้วรอยให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ แต่ไม่ถาวร เพราะโบท็อกซ์จะสลายไปเองตามธรรมชาติ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าถึงเวลาต้องเติมโบลดริ้วรอยอีกครั้ง โบลดริ้วรอยสามารถเติมได้บ่อยแค่ไหน วันนี้ Fiora Clinic มีคำตอบค่ะ
โบลดริ้วรอย อยู่ได้นานแค่ไหน
การฉีดโบลดริ้วรอย สามารถลดริ้วรอยได้หลายจุดบนใบหน้าทั้ง หน้าผาก หัวคิ้ว หางตา ร่องแก้ม และรอยย่นจมูก โดยทั่วไประยะเวลาของโบลดริ้วรอยจะอยู่ได้นาน 4-6 เดือน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ฤทธิ์ของโบท็อกซ์ ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของโบท็อกซ์ ตำแหน่งฉีด เทคนิคการฉีด และพฤติกรรมของคนไข้ด้วยค่ะ
5 วิธีสังเกต ว่าถึงเวลาเติมโบลดริ้วรอยได้แล้ว
1. ผิวหน้าเริ่มมีความหย่อนคล้อย ไม่กระชับ
2. ผิวหน้าดูไม่ตึง เหมือนตอนฉีดใหม่ ๆ
3. มีริ้วรอยกลับมาให้เห็น เนื่องจากกล้ามเนื้อกลับมาทำงานได้ปกติ
4. เมื่อแสดงสีหน้าแล้วมีริ้วรอยปรากฏให้เห็น เช่น เมื่อหยีตาแล้วเห็นริ้วรอยหางตา เลิกคิ้วแล้วเห็นรอยย่นหน้าผาก เป็นต้น
5. เมื่อเวลาผ่านไป 4-6 เดือน ควรปรึกษาแพทย์อีกครั้ง เพื่อดูว่าควรเติมโบลดริ้วรอยหรือไม่ เนื่องจากโบท็อกซ์สามารถฉีดต่อเนื่องได้ และหากเว้นระยะนาน อาจทำให้ต้องใช้ยูนิตของโบท็อกซ์เยอะขึ้นกว่าเดิม
ยืดอายุโบลดริ้วรอยให้นานขึ้น ทำอย่างไรได้บ้าง?
1. เลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน ใช้โบท็อกซ์แท้ ผ่านมาตรฐาน อย. จัดเก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสม
2. เลือกฉีดกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ เพราะฤทธิ์ของโบลดริ้วรอยขึ้นอยู่กับการผสมน้ำเกลือ ปริมาณโบท็อกซ์และจุดฉีดด้วยเช่นกัน
3. หลังฉีดทันทีขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด อย่างน้อย 30 นาที จะทำให้โบท็อกซ์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
3. หลีกเลี่ยงความร้อน เช่น ซาวน่า เลเซอร์ผิวหน้า เป็นต้น เพราะโบท็อกซ์ เมื่อถูกความร้อนจะสลายตัวเร็ว
4. ไม่นวดหรือบีบบริเวณที่ฉีดโบลดริ้วรอย เพราะจะกระตุ้นให้โบท็อกซ์สลายตัวเร็วยิ่งขึ้น
5. หลีกเลี่ยงการแสดงสีหน้าเยอะ ๆ เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหางตา หน้าผาก ร่องจมูก มุมปาก ถูกใช้งานมาก กระตุ้นให้โบท็อกซ์หมดฤทธิ์ ทำให้ริ้วรอยกลับมาเร็วกว่าเดิม
6.ทานอาหารที่มี Zinc (ซิงค์) เช่น อาหารทะเล หอยนางรม ไข่แดง และตับ ทั้งก่อนและหลังฉีดโบ จะช่วยให้ตัวยาออกฤทธิ์ได้เร็วและดียิ่งขึ้น
ฉีดโบลดริ้วรอยได้บ่อยแค่ไหน
โบลดริ้วรอยจะออกฤทธิ์ประมาณ 4-6 เดือน เมื่อหมดฤทธิ์ก็จะสลายไปเองตามธรรมชาติ จากนั้นริ้วรอยจะค่อย ๆ กลับมา หากต้องการให้ลดริ้วรอยอีกครั้ง ก็ต้องฉีดซ้ำ ซึ่งการฉีดโบท็อกซ์สามารถฉีดซ้ำได้แต่ไม่ควรถี่เกินไป ควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย 3 เดือนหลังฉีด แต่ไม่ควรเว้นนานเกิน 5-6 เดือน เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อกลับมาทำงานได้ปกติ เมื่อฉีดโบลดริ้วรอยใหม่อาจต้องใช้ปริมาณยูนิตเยอะกว่าเดิม และการฉีดโบลดริ้วรอยอย่างต่อเนื่อง จะช่วยทำให้การฉีดโบท็อกซ์ครั้งต่อไปออกฤทธิ์ได้ดีกว่าเดิมและอยู่ได้นานกว่าเดิมอีกด้วยค่ะ
ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยที่ไหนดี
การฉีดโบลดริ้วรอย จะต้องใช้โบท็อกซ์แท้ที่ได้มาตรฐานและผ่านการรับรองจาก อย. โดยเลือกฉีดโบกับแพทย์ที่มีใบอนุญาต มีประสบการณ์ เชี่ยวชาญในการฉีดโบท็อกซ์ เพราะการฉีดโบลดริ้วรอยแต่ละจุด จะมีเทคนิคการฉีดที่แตกต่างกัน และที่สำคัญต้องเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย และมีรีวิวให้ดูเพื่อประกอบการตัดสินใจได้
ภาพ Before / After ของการฉีดโบท็อกซ์โดย คุณหมอเพชร
หากใครสนใจฉีดโบลดริ้วรอย ปรึกษาปัญหาริ้วรอยแห่งวัย สามารถมาปรึกษาคุณหมอที่ ฟิออร่าคลินิก กันได้นะคะ เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาและให้บริการอย่างใกล้ชิด นำโดย คุณหมอเพชร – นายแพทย์ ชัยรัตน์ เสริมศิลป์ หมอปั้นหน้ามือหนึ่งแห่งสมุทรสาคร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม จากวิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และยังได้รับวุฒิบัตรเฉพาะทาง การฉีดโบท็อกซ์ และฟิลเลอร์ จากประเทศ-อเมริกา ตลอดจนผ่านการฉีดโบท็อกซ์ และฟิลเลอร์ให้กับดารา เซเลป และบุคคลทั่วไปมากกว่า 8,000 เคส
Fiora Clinic สาขามหาชัย (สมุทรสาคร)
โทร : 099-4145662
Line : @Fioraclinic หรือ https://bit.ly/2KrTOha
Facebook Page : https://www.facebook.com/FioraByDrPhed/
Inbox : m.me/FioraByDrPhed
Flora Clinic สาขาจันทบุรี
โทร : 062-5464664
Line : @Floraclinic หรือ http://nav.cx/7JBRbnp
Facebook Page : https://www.facebook.com/Floraclinic.ch/
Inbox : m.me/Floraclinic.ch
Flora Clinic สาขาอรัญประเทศ
โทร : 092-6452566
Line : @Fiora.Aran หรือ https://www.facebook.com/Fiora.Aran
