วิธีการลดกรามแบบต่าง ๆ ดูอย่างไรว่าคุณเหมาะกับวิธีไหนที่สุด

แน่นอนว่าสาว ๆ แทบทุกคนคงอยากมีหน้าเรียวกัน กรามใหญ่ หน้าบานคงกำลังเป็นปัญหาสำหรับใครหลายคน เป็นเหตุให้สาว ๆ หลายคนสูญเสียความมั่นใจในใบหน้าตัวเองไปอยากจะลดกราม และปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ค่ะ แต่วิธีการแก้ปัญหาเหล่านี้ก็มีมากมาย วันนี้ Fiora Clinic จะพาคุณไปรู้จักกับวิธีการลดกรามแบบต่าง ๆ ไปดูกันค่ะว่าแต่ละวิธีนั้นแตกต่างกันอย่างไร และใครเหมาะกับวิธีไหน

การฉีดโบท็อกซ์

โบท็อกซ์ หรือ Botulinum toxin A (Botox) เป็นโปรตีนที่สกัดได้จากการสร้างของแบคทีเรีย “คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม” (Clostridium Botulinum) เหมาะกับการลดกราม เฉพาะผู้ที่มีกรามใหญ่เพราะกล้ามเนื้อเท่านั้น

ฉีดโบลดกราม หรือสาร Botox จะทำให้เซลล์ประสาทไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาทมาที่กล้ามเนื้อได้ จึงทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดโบลดกรามเกิดการคลายตัวของกล้ามเนื้อ และเมื่อกล้ามเนื้อส่วนนั้นไม่ได้ถูกใช้งานไปนาน ๆ ก็จะทำให้กล้ามเนื้อมีขนาดเล็กลง จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมขนาดกรามจึงเล็กลงและหน้าเรียวลงได้หลังการฉีดโบลดกราม เพราะกล้ามเนื้อกรามจะถูกใช้งานน้อยลง และเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 2-3 สัปดาห์ จะเห็นผลชัดเจนว่าขนาดกรามเล็กลง และหน้าเรียวขึ้น

การฉีดโบลดกราม นอกจากจะสามารถลดกรามได้แล้ว ยังช่วยป้องกันริ้วรอยในอนาคตได้ เนื่องจากผลการออกฤทธิ์ของโบท็อกซ์ในช่วง 3-4 เดือน เห็นผลรวดเร็วที่ใช้เวลาเพียง 2-3 สัปดาห์เท่านั้น และที่สำคัญราคาไม่แพงอยู่ที่ 4,000-20,000 บาท ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ ปริมาณยูนิต คลินิก และความเชี่ยวชาญของแพทย์

การร้อยไหม

เป็นเทคนิคที่นำมาใช้ช่วยยกกระชับ ฟื้นฟูสภาพผิว ลดเลือนริ้วรอยและปรับรูปหน้าให้ดูเรียว ด้วยไหมละลายโดยไม่ต้องผ่าตัด โดยไหมจะละลายไปได้เองเมื่อเวลาผ่านไป 6-18 เดือน ช่วยยกกระชับหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยเป็นหลัก การร้อยไหมราคาจะอยู่ที่หลักหมื่นขึ้นไป เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยทำให้หน้าของคุณเรียวเล็กขึ้นมาได้แต่ก็ไม่มากเท่ากับการปรับหน้าเรียว ลดกรามด้วย Botox ที่จะช่วยทำให้ผิวหน้าที่หย่อนคล้อยค่อย ๆ กระชับยิ่งขึ้น ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาพักฟื้นหรือใช้เวลาพักฟื้นน้อย

ผ่าตัดกรามหรือเหลากราม

เป็นวิธีปรับรูปหน้า ลดกราม เหมาะสำหรับผู้ที่มีกรามใหญ่หรือมีกระดูกขากรรไกรใหญ่มาแต่กำเนิด เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้ใบหน้าของคุณเปลี่ยนเป็นรูปทรงได้ ทำให้หน้าดูแคบและเรียวขึ้น แต่วิธีนี้คุณต้องแน่ใจจริง ๆ ว่ากรามคุณใหญ่เพราะกระดูกขากรรไกรจริง ๆ ไม่ใช่ใหญ่เพราะกล้ามเนื้อ เพราะถ้าใหญ่จากกล้ามเนื้อแนะนำให้ฉีดโบท็อกซ์ลดกรามจะดีกว่า สำหรับราคาการผ่าตัดกราม เพื่อลดกรามก็อยู่ที่ 50,000-80,000 บาท ขึ้นไป

ศัลยกรรมปรับแต่งกระดูก

เป็นการแก้ปัญหาที่เหมาะกับคนที่มีโหนกแก้มสูงใหญ่ ปัญหาหน้าบานหรือหน้าตอบ แต่มีข้อเสียคือถ้าหากปรับแต่งไปแล้วเราเกิดไม่ชอบจะกลับไปเปลี่ยนแปลงให้เป็นแบบเดิมมันก็คงไม่ได้ จึงต้องเลือกหมอศัลยกรรมที่เก่งและเข้าใจสรีระโครงสร้างของใบหน้าคุณเป็นอย่างดี หากไม่ได้มีปัญหาหน้าบานเพราะกระดูก การฉีดโบท็อกซ์จะเป็นวิธีปรับหน้าเรียว ลดกรามที่ดีกว่า และมีข้อดีกว่าที่สามารถปรับแก้ได้ค่ะ

ฉีดแฟตแก้มหรือเมโสแฟต

เหมาะสำหรับผู้มีแก้มใหญ่ หน้ากลมเพราะมีไขมันส่วนเกินบริเวณแก้ม สำหรับการฉีดก็จะช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินเฉพาะจุดที่ไม่ต้องการ ข้อเสียคือต้องฉีดทุกอาทิตย์ ซึ่งผลที่ได้อาจจะช้า และมีผลข้างเคียงมาก มีอาการเจ็บในตอนฉีด และมีรอยฟกช้ำบ้างหลังการฉีด ทั้งนี้ก็แล้วแต่ตัวยาที่ใช้ สำหรับราคาก็ประมาณ 1,000 บาทขึ้นไป วิธีนี้อาจจะไม่ได้เป็นการแก้ไขปัญหาลดกรามที่ตรงจุดเท่าไหร่นะคะ

ได้รู้จักวิธีการลดกรามแบบต่าง ๆ กันไปแล้ว หวังว่าบทความนี้จะเป็นตัวช่วยให้สาว ๆ ได้ตัดสินใจกันนะคะว่าจะจัดการปัญหากรามใหญ่ ลดกรามอย่างไรได้บ้าง คงจะเห็นได้ชัดว่าการฉีดโบท็อกซ์เป็นวิธีที่ให้ผลลัพท์ค่อนข้างดี เห็นผลนาน และราคาไม่สูงจนเกินไปสำหรับการลดกรามที่กรามมีขนาดใหญ่เพราะกล้ามเนื้อ

หากใครสนใจฉีดโบท็อกซ์ลดกราม ก็มาปรึกษาคุณหมอที่ Fiora Clinic กันได้นะคะ เรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาและให้บริการอย่างใกล้ชิด โดย คุณหมอเพชร – นายแพทย์ ชัยรัตน์ เสริมศิลป์ หมอปั้นหน้ามือหนึ่งแห่งสมุครสาคร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม จาก วิทยาลัยแพทย์ศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และยังได้รับวุฒิบัตรเฉพาะทาง การฉีดโบท็อกซ์ และฟิลเลอร์ จากประเทศ-อเมริกา ตลอดจนผ่านการฉีดโบท็อกซ์ และฟิลเลอร์ให้กับดารา เซเลป และบุคคลทั่วไปมากกว่า 8,000 เคส